วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

พุดน้ำบุศย์

     พุดน้ำบุศย์               

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gardennia carinata Wallich.
 ชื่อวงศ์ : Rubiaceae
 ชื่อสามัญ : Kedah gardenia
 ชื่อพื้นเมือง : -
 ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
 ขนาด [Size] : สูง 2 เมตร
 สีดอก [Flower Color] : สีเหลืองอมส้ม
 ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Time] : ตลอดปี 
 อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : ปานกลาง
 ลักษณะนิสัย [Habitat] : ดินร่วนระบายน้ำได้ดี
 ความชื้น [Moisture] : สูง
 แสง [Light] : แดดเต็มวัน

 ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดเล็ก แตกกิ่งต่ำจำนวนมาก ทรงพุ่มแน่นทึบ กิ่งแตกตรงข้อ 2-3 กิ่ง
ใบ (Foliage) :  ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ ใบรูปใบหอก กว้าง 3-6 เซนติเมตร ยาว 8-12 เซนติเมตร  ปลาย
ใบเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบเรียบ แผ่นใบบาง เส้นกลางใบและเส้นใบสีขาวเด่นชัด   ผิวใบด้านบนสีเขียว
เข้มเป็นมัน ผิวใบด้านล่างสีเขียวอ่อน
ดอก (Flower) : สีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอม ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียว  ปลาย
แยกเป็นแฉก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด  ยาว 1-1.5 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 8 แฉก ดอกใกล้โรยจะ
มีสีเหลืองเข้ม ดอกบานเต็มที่กว้าง 2.5-3 เซนติเมตร
ผล(Fruit) : ผลสด รูปกระสวยเป็นสัน 5 สันตามยาว กว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร เมล็ดจำนวนมาก
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) :  ปลูกเป็นพุ่ม  เหมาะกับสวนไทย  สวนป่า  ดอกสีสวย มีกลิ่นหอม
ถ้าปลูกในร่มจะไม่ออกดอก
ประโยชน์ : -
 

 

ต้นประทัดไต้หวัน


ต้นประทัดไต้หวัน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hamelia patens Jacq. 
 ชื่อวงศ์ : Rubiaceae
 ชื่อสามัญ : Scarlet bush, Fire bush, Coloradillo
 ชื่อพื้นเมือง : ประทัดฟิลิปปินส์ ประทัดทอง ประทัดเล็ก
 ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
 ขนาด [Size] : สูงได้ถึง 3-4 เมตร
 สีดอก [Flower Color] : สีส้มแดง
 ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Time] : เกือบตลอดปี
 อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : เร็ว
 ลักษณะนิสัย [Habitat] : ขึ้นได้ในดินทั่วไป ระบายน้ำได้ดี
ความชื้น [Moisture] : ปานกลาง
 แสง [Light] : ชอบแดดจัด
 ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกลม กิ่งก้านมีสีน้ำตาลแดงเรื่อ
ใบ (Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามหรือรอบข้อประมาณ 3 ใบ ใบรูปรีถึงรูปไข่ กว้าง 5-7 เซนติเมตร  ยาว
5-10 เซนติเมตร   ปลายใบแหลม  โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเป็นคลื่นเล็กน้อย   ผิวใบด้านบนสีเขียวอม
เหลือง เป็นมัน
ดอก (Flower) :    สีส้มแดง   ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง   โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน
เป็นหลอดแคบเล็ก ปลายแยก 4 แฉก หยักเป็นแฉกเล็กๆ
 ผล (Fruit) :   ผลสดแบบมีเนื้อ  รูปไข่  กว้างประมาณ 6 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 8 มิลลิเมตร เมื่อแก่มีสีดำ
มีเมล็ดจำนวนมาก
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ปลูกประดับสวน ตัดแต่งเป็นรูปทรงได้ดี แนวรั้ว เกาะกลางถนน ริมทางเดิน บังกำแพง ริมสระว่ายน้ำ ปลูกริมทะเล ไม่ทนน้ำท่วมขัง
ประโยชน์ :  -
 

ดอนญ่าควีนสิริกิติ์


ดอนญ่าควีนสิริกิติ์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mussaenda philippica A. Rich.    'Queen Sirikit'
 ชื่อวงศ์ : Rubiaceae
 ชื่อสามัญ : Dona, Queen Sirikit Don'a
 ชื่อพื้นเมือง : -
 ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้พุ่ม
 ขนาด [Size] : สูง < 3 เมตร
 สีดอก [Flower Color] : สีเหลือง
 ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Time] : เกือบตลอดปี
 อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : เร็ว
 ลักษณะนิสัย [Habitat] : ดินร่วน ระบายน้ำดี
 ความชื้น [Moisture] : ปานกลาง
 แสง [Light] : แดดเต็มวัน

ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้พุ่มชนาดกลาง ลำต้นตั้งตรง เปลือกสีน้ำตาลอมเทา
 ใบ(Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปไข่หรือรูปรี กว้าง 6- 8 เซนติเมตร ยาว 10-13 เซนติเมตร ปลายใบ
แหลม  โคนใบมน  ผิวใบด้านบนสีเขียวสด  มีขนนุ่มปกคลุม
ดอก (Flower) :  สีเหลือง ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีใบประดับสีชมพูอ่อน ขอบสีชมพูเข้ม
ขนาดใหญ่ 3 กลีบ   รูปค่อนข้างกลมปลายเป็นติ่ง  โคนกลีบดอกสีแดงเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ  2 เซนติเมตร  ปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปสามเหลี่ยม กลางดอกมีขนสีน้ำตาลแดง เกสรตัวผู้ 3 อัน  ดอกบานเต็มที่
กว้าง 1.3- 2 เซนติเมตร
 ผล (Fruit) : -
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) :   ปลูกเป็นไม้ประธานสวนหย่อม  ริมสระว่ายน้ำ  ปลูกเป็นกลุ่มใน
พื้นที่กว้าง  บังกำแพง  ไม่ทนน้ำท่วมขัง
ประโยชน์ :  -

 
 
  

ต้นช้องนาง

ต้นช้องนาง
ชื่อวิทยาศาสตร์:  Thunbergia  erecta   (Benth.)  Anderson.
ชื่อวงศ์:  ACANTHACEAE
ชื่อสามัญ:  Bush ,  Clock Vine
ชื่อพื้นเมือง:  ช้องนางเล็ก  ,  ช้องนางใหญ่
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  เป็นพรรณไม้พุ่มเตี้ย แตกกิ่งก้านสาขามากมายลำต้นสูงประมาณ 6 ฟุต
    ใบ  ใบจะคล้ายใบแก้ว ออกจะเป็นคู่ ๆ เรียงไปตามกิ่งของล้ำตน ลักษณะของใบมนปลายแหลม กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร มีสีเขียว โคนใบสอบ ขอบใบเป็นคลื่น ผิวใบด้านบนสีเขียวสด ก้านใบสีแดง
    ดอก  รูปทรงของดอกเป็นรูปแตร มีสีม่วงเข้มแต่พันธุ์สีขาวหายากกว่าพันธุ์สีม่วง มีอยู่ 5 กลีบตรงกลาง ดอกเป็นสีเหลืองดอกบานเต็มที่ประมาณ 8 เซนติเมตร
    ฝัก/ผล  เป็นรูปสามเหลี่ยม เมื่อแก่มีสีน้ำตาล แตกได้  
ฤดูกาลออกดอก:  ออกดอกตลอดปี
การปลูก:  ลงดินตัดแต่งเป็นพุ่ม หรือปลูกเป็นรั้วงามน่าชม
การดูแลรักษา:  ปลูกได้ทั้งกลางแจ้ง และที่ร่มรำไร   ชอบดินร่วนซุยมีความชื้นตลอดเวลา
การขยายพันธุ์:  ตอนและปักชำ
การใช้ประโยชน์:  เป็นไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:  แอฟริกาตะวันตก
 
 

ต้นบานเช้าสีเหลือง

ต้นบานเช้าสีเหลือง
ชื่อวิทยาศาสตร์:  Turnera ulmifolia L.
ชื่อวงศ์:  Turneraceae
ชื่อสามัญ:  Sage rose, West indian holly
ชื่อพื้นเมือง:  เหลืองราชา, บานเช้าต้น
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านน้อย มีขนราบนุ่มทั่วไป
    ใบ  ใบเดี่ยว  เรียงสลับ  ใบรูปใบหอกหรือรูปใบหอกแกมรูปไข่  กว้าง 1-3.5 เซนติเมตร ยาว 4-15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบแคบ ขอบใบจักหยาบ ก้านใบมีต่อม 2 ต่อม ชัดเจน แผ่นใบบาง เส้นกลางใบนูนชัดเจน ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบล่างมักหลุดร่วงก่อน ทิ้งรอยแผลไว้ที่ลำต้น
    ดอก  สีเหลืองสด ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบ ใบประดับรูปใบหอกปลายแหลม  ขอบจักฟันเลื่อย กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอดมีขนหนาแน่น ปลายแยกเป็น 5 แฉก ยาว 2 เซนติเมตร กลีบดอก 5 กลีบ กลีบรูปไข่กลับหรือกลม ดอกบานเต็มที่กว้าง3-5 เซนติเมตร เมื่อดอกหลุดร่วงไปจะทิ้งร่องรอยของ petiolar scar เอาไว้ เกสรเพศผู้ 5 อัน
    ฝัก/ผล  ผลแห้งแตก รูปไข่ปลายมน เมล็ดจำนวนมาก 
ฤดูกาลออกดอก:  ตลอดปี
การปลูก:  ปลูกริมถนน ทางเดิน ริมน้ำตก ลำธาร ปลูกริมทะเล
การดูแลรักษา:  ขึ้นได้ในดินทุกขนิด ทนเเล้ง ไม่ทนน้ำท่วมขัง ชอบแดดเต็มวัน-รำไร
การขยายพันธุ์:  เมล็ด ปักชำกิ่ง
ถิ่นกำเนิด:  อเมริกาเขตร้อน หมู่เกาะเวสต์อินดีส
 

ต้นพยับหมอก


ต้นพยับหมอก
ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Plumbago auriculata Lam.
ชื่อสามัญ :            Cape leadwort
อาณาจักร :           Plantea
ชั้น:                      Magnoliopsida
ตระกูล :               Plumbaginales
วงศ์ :                   Plumbaginaceae
สกุล :                   Plumbago
ชนิด :                  Plumbago auriculata
ลักษณะทั่วไป
               ต้นไม้รูปทรงกลมที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้านได้อย่างน่าประทับใจอีกชนิดหนึ่ง คือ ต้นพยับหมอก ไม้ดอกไร้กลิ่นที่มีใบสีเขียวเข้ม ตัดกับดอกสีเทาฟ้าสว่างตา เป็นความโดดเด่นอันยากจะหาต้นไม้ใดเหมือน พยับหมอกมีขนาดทรงพุ่ม 0.5-0.8 ม. ลำต้นสีน้ำตาลเข้ม มีช่วงในการออกดอกตลอดทั้งปี และดอกจะบานสะพรั่งงดงามอย่างยิ่งในฤดูหนาว หลังจากที่หมดดอกควรมีการตัดแต่งเพราะดอกจะแห้งคาต้น พยับหมอกได้ความนิยมที่จะปลูกเป็นฉากหลังในสวนสน ตำแหน่งที่ปลูกไม่ควรจำกัดความสูง เพราะถ้าตัดแต่งบ่อยๆ จะไม่มีดอกที่สวยงามให้ชื่นชม
ขยายพันธุ์ :         โดยการปักชำกิ่ง หรือตอนกิ่ง
ประโยชน์ :         ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่ง เป็นไม้พุ่มต่ำได้ จะให้ดอกสวยงาม หรือใช้ปลูกริมรั้ว จะมีความคงทนมาก ดอกใช้ประดับหรือปักแจกันได
 
 
 
 

ต้นเทียนหยด


ต้นเทียนหยด
ชื่อสามัญ                   Duranta
ชื่อวิทยาศาสตร์          Verbenaceae
ตระกูล                       Duranta erecta L.
ถิ่นกำเนิด                    อเมริกาเขตร้อน
ลักษณะทั่วไป
เป็นพรรณไม้พุ่มเตี้ย สูง 1 - 2 เมตร แตกกิ่งก้านหนาแน่น ยอดกิ่งลู่ลง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม และจะออกหนาแน่นเป็นกระจุกรอบกิ่งก้านในช่วงปลายยอดใบเป็นรูปรีแกมรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ใบเป็นสีเขียวสด เวลาใบดกจะเป็นพุ่มน่าชมมาก ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายกิ่งแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก ช่อดอกจะห้อยลงเป็นระย้า ลักษณะดอก โคนเป็นหลอด ปลายแยกเป็น กลีบ ดอกแต่ละกลีบเป็นอิสระกัน ปลายกลีบโคงมน มีเว้าเล็กน้อยบริเวณกลางกลีบ โคนกลีบสอบแคบ เวลามีดอกดกๆ และบานพร้อมๆ กันทั้งต้น ช่อดอกจะห้อยปลายลงเป็นระย้าดูงดงามมาก ดอกจะออกทั้งปี มีพันธุ์สีม่วงและสีขาว ผลทรงกลม ขนาดเล็กปลายแหลม อยู่รวมกันเป็นช่อห้อยลงเมื่อแก่เป็นสีเหลือง
การปลูก
เทียนหยดปลูกขึ้นได้ในดินทั่วไป ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ชอบแดดจัดเหมาะจะปลูกลงดินกลางแจ้งหรือลงกระถาง ตั้งวางในที่มีแดดส่องถึงทั้งวัน นิยมปลูกเป็นไม้ขอบแปลงหรือแปลงใหญ่
ขยายพันธุ์
โดยการเพาะเมล็ด ตอนหรือปักชำกิ่ง
การดูแลรักษา
หลังการปลูก บำรุงด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก 10 วันครั้งรดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น ถ้าปลูกลงกระถางควรให้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 อาทิตย์ละครั้ง สลับกับปุ๋ยมูลสัตว์10 วันครั้ง ตัดแต่งกิ่ง พรวนดินสม่ำเสมอจะทำให้ต้นเทียนหยดเจริญเติบโตเร็ว

ต้นบานเช้าสีนวล

ต้นบานเช้าสีนวล
ชื่อวิทยาศาสตร์:  Turnera subulata G.E. Smith.
ชื่อวงศ์:  TURNERACEAE
ชื่อสามัญ:  Sage Rose
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  ไม้เนื้ออ่อนพุ่มเตี้ย กิ่งเลื้อย แตกกิ่งชี้ขึ้นไปลำต้นสูงประมาณ 30 - 80 เซนติเมตร
    ใบ  เป็นใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ๆ สลับกัน ใบมนรี ปลายแหลม ขอบใบหยัก ใบมีสีเขียวเข้มและดกเป็นพุ่มหนา
    ดอก  ออกดอกตามปลายยอด  เป็นดอกเดี่ยว  สีขาวนวล  มีกลีบดอก 5 กลีบ  บริเวณโคนกลีบดอกสีม่วงและสีเหลือง  ลักษณะของดอกเป็นหลอดสั้นๆ ตรงปลาย ดอกจะบานเวลาเช้าและหุบกลางคืน
    ฝัก/ผล  ทรงรี ปลายมน ผิวเป็นตุ่มละเอียด
    เมล็ด  เมล็ดสีดำ
ฤดูกาลออกดอก:  ออกดอกตลอดปี
การปลูก:  ปลูกเป็นไม้ประดับเป็นแปลง
การดูแลรักษา:  ควรเป็นดินร่วนซุย อุดมสมบูรณ์ต้องการน้ำปานกลางแม้จะทนร่มได้บ้างแต่ก็จะให้ดอกน้อยลง จึงควรปลูกทางทิศตะวันออกเพื่อให้ได้แสงเต็มที่ในช่วงเช้า
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด  และปักชำ ตอนกิ่ง
การใช้ประโยชน์:  ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:  อเมริกาเขตร้อน
 

ต้นพุดซ้อน

ต้นพุดซ้อน
ชื่อวิทยาศาสตร์:  Gardenia angusta (L.) Merr.
ชื่อวงศ์:  Rubiaceae
ชื่อสามัญ:  Cape jasmine, Gardenia jasmine
ชื่อพื้นเมือง:  พุดจีน พุดใหญ่ อินถะหวา เค็ดถวา แคถวา ซัวอึ้งกี่ จุยเจียฮวย
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  พุดซ้อนเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-2เมตร แตกกิ่งแขนงมาก ลำต้นเรียวเป็นรูปกรวย ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม  ค่อนข้างหนาทึบ เปลือกสีน้ำตาลดำ
    ใบ  ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปหอก ปลายใบและโคนใบแหลม ใบมีสีเขียวมน
    ดอก  เป็นดอกเดี่ยวสีขาวออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีกลีบเลี้ยงหนาเป็นสัน มีทั้งชนิดดอกลา คือกลีบดอกชั้นเดียว และชนิดดอกซ้อน มีกลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนกัน เมื่อดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7-8 ซม.
    ฝัก/ผล  มีทั้งผลสั้นและยาว  รูปไข่ถึงรูปแกมรูปขอบขนาน เมื่อแก่สีเหลือง ส้ม เมล็ดจำนวนมาก ผลแก่จัดจะแตกเป็น 2 ซีก
    เมล็ด  จำนวนเมล็ดประมาณ 3-6 เมล็ด
ฤดูกาลออกดอก:  ออกดอกตลอดปี
การปลูก:  ปลูกเป็นต้นเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเพื่อบังสายตา
การดูแลรักษา:  เป็นไม้กลางแจ้ง ต้องการแสงแดดจัด ชอบดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก กลิ่นหอมแรง
การใช้ประโยชน์:
    -    นิยมนำไปร้อยพวงมาลัยบูชาพระ
    -     เมล็ดสีเหลืองทอง ใช้แต่งสีอาหารและทำสีย้อม 
    -    ส่วนดอกใช้สกัดน้ำมันหอมระเหย ใช้ทำน้ำหอมและแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง
    -    สมุนไพร
ถิ่นกำเนิด:  ประเทศไทย จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น
แหล่งที่พบ:  มีอยู่มากทางภาคเหนือ
สรรพคุณทางยา:
    -    ใบ ตำพอกแก้ปวดศีรษะ  แก้เคล็ดขัดยอก
    -     ดอก คั้นน้ำทาแก้โรคผิวหนัง
    -    ราก  แก้ไข้ 
    -    เปลือกต้น  แก้บิด

  
 

ต้นแพงพวยฝรั่ง

ต้นแพงพวยฝรั่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์:  Catharanthus roseus G. Don.
ชื่อวงศ์:  APOCYNACEAE
ชื่อสามัญ:  Madagascar periwinkle, Vinca,Old maid, Cayenne jasmine, Rose periwinkle
ชื่อพื้นเมือง:  ผักปอดนา (ภาคเหนือ) ผักนมอินทร์ (สุราษฎร์ธานี) ตับขี้หมู (เกาะสมุย, เกาะพงัน) แพงพวยฝรั่ง พังพวยฝรั่ง พังพวยบก (ไทยภาคกลาง)
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  เป็นไม้ล้มลุก ที่มีระบบรากแก้ว ลำต้นมีทั้งทอดขนานไปตามผิวดินและตั้งตรง ทรงพุ่มสูงประมาณ 40-120 เซนติเมตร
    ใบ  ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปไข่กลับ สีเขียวเข้ม ขอบใบเรียบไม่มีจัก ปลายใบมน โคนใบแหลมใบยาวประมาณ 2 นิ้ว และกว้างประมาณ 1 นิ้ว ใ
    ดอก   ดอกของแพงพวยจะมีสองสีคือแดงและขาว ออกตามซอกใบ 1-3 ดอก ถ้าเป็นสีขาว ตรงกลางดอกจะมีสีเหลือง ถ้าเป็นสีชมพู ตรงกลางดอกเป็นสีแดง กลีบดอกชั้นเดียว มีกลีบดอก 5 กลีบ
    ฝัก/ผล  ฝักออกติดกันเป็นคู่ ผลแห้งแตกแนวเดียว ทรงกระบอก ขนาดประมาณ 3.75 เซนติเมตร จำนวนหลายเมล็ด
ฤดูกาลออกดอก:  ออกดอกตลอดปี
การปลูก:  ปลูกประดับไว้ตามสนามหญ้า ข้างทางเดินหรือข้างถนน ปลูกเป็นไม้กระถางกลางแจ้ง การปลูกจะปลูกเป็น แถวหรือเป็นกลุ่ม
การดูแลรักษา:  สามารถเจริญได้ในอากาศร้อนจัดในฤดูร้อน ชอบแสงแดดปานกลางถึงแสงแดดจัด
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด
การใช้ประโยชน์:
    -    ไม้ประดับ
    -    สมุนไพร
ถิ่นกำเนิด:  แถบอเมริกากลาง หมู่เกาะมาดากาสการ์
แหล่งที่พบ:  พบทั่วทุกภาคของประเทศไทย
สรรพคุณทางยา:
    -    ใบแก้โรคเบาหวาน บำรุงหัวใจ แก้ท้องผูกเรื้อรัง
    -    ทั้งต้นรักษาโรคเบาหวาน ลดความดันโลหิต
    -    รากแก้บิด ขับพยาธิ ใช้ห้ามเลือด รักษามะเร็งในเม็ดเลือด
    -    ต้น มีอัลคาลอยด์ สำคัญคือ vinblastine และ vincristine ใช้เตรียมเป็นยาแผนปัจจุบันในรูปยาฉีด vincristine sulphate ใช้บำบัดมะเร็งเม็ดเลือดในเด็ก และ vinblastine sulphate ใช้รักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง


30665953.jpg