วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ดอก บิโกเนีย


 ชื่อวิทยาศาสตร์:  Begonia spp.
 ชื่อวงศ์:  Begoniaceae
 ชื่อสามัญ:  Begonia
 ชื่อพื้นเมือง:  ส้มกุ้ง , ก้ามกุ้ง, สมมติ
 ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  ไม้อวบน้ำอายุยืน  มีเหง้าออยู่ใต้พี้นดิน ลำต้นสูงจากพื้นดิน 15-45 ซม.
    ใบ  เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปร่าง ขนาด และสีสันแตกต่างกันในตและพันธุ์ ใบมีลักษณะเบี้ยว คือ แผ่นใบสองข้างไม่เท่ากัน รูปหัวใจ ใบเกิดเวียนรอบลำต้น บางชนิดมีขนเหมือนกำมะหยี่
     ดอก  ดอกออกเป็นช่อแทงทะลุซอกใบ ช่อดอกตัวผู้แยกจากช่อดอกตัวเมีย แต่อยู่บนต้นเดียวกันดอกตัวมีเมียมีรังไข่ที่โป่งออกเป็นปีกสามแฉกที่โคนดอก ดอกตัวเมียบานทนกว่าดอกตัวผู้ ปกติ บีโกเนียดอกมีหลายสี เช่น ชมพู ส้ม ขาว

บีโกเนียเป็นพืชสกุลใหญ่ จึงแบ่งออกเป็นพวกๆ โดยอาศัยรูปร่างของส่วน สะสมอาหารหรือรากเป็นหลักได้ดังนี้ คือ
    1. บีโกเนียชนิดที่มีรากฝอย  (Fibrous – rooted  begonia)  มีใบสีเขียวและสีน้ำตาลเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อ  มีทั้งสีขาว  สีชมพู  สีแดง  และสองสี  เช่น  ขาวขอบแดง
    2. บีโกเนียชนิดที่มีเหง้า  (Rhizomatous  begonia)  ส่วนมากเป็นบีโกเนียที่ปลูกประดับใบ ใบมีสีสวยมีหลายแบบ   เช่น  รูปใบกลม   รูปหัวใจ มีกลีบดอกชั้นเดียว
    3. บีโกเนียชนิดที่มีหัว (Tuberous  begonia)  ดอกมีขนาดใหญ่  มีทั้งดอกชั้นเดียว และดอกซ้อน
  
 ฤดูกาลออกดอก:  ออกดอกตลอดปี
 การปลูก:  ปลูกเป็นพืชคลุมดิน เป็นไม้กระถาง หรือ ไม้ในภาชนะแขวนก็ได้
 การดูแลรักษา:  ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย บริเวณที่มีแสงแดดรำไร รดน้ำปานกลาง อย่าให้แฉะ และควรรดปุ๋ยทางใบ ทุกๆ 2 สัปดาห์  ไม่ชอบอากาศหนาวเย็น
 การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด ปักชำยอดและใบ
 การใช้ประโยชน์:
    -    ไม้ประดับ
    -    ชนิดที่พบตามป่าเขา มีรสเปรี้ยว สามารถนำมาประกอบอาหารได้
 ถิ่นกำเนิด:  เอเชีย และ อเมริกา
 แหล่งที่พบ:  ตามป่าดิบชี้นทั่วทุกภาค
 ส่วนที่ใช้บริโภค:  ก้านต้น
 การปรุงอาหาร:  ก้านต้นมาทำต้มยำ แทนมะนาว ให้รสชาติเปรี้ยวดีแท้ แต่ถ้าเป็นคนธาตุอ่อน ท่านให้พึงระวัง เพราะอาจท้องเสียได้ ส่วนบีโกเนียที่ไม่ควรกิน จะเป็นกลุ่มใบกำมะหยี่


    
  





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น